เป็นวิถีฟุตบอลที่หลายคนรู้ดีว่า ไม่มีนักเตะคนไหนยืนยงอยู่คู่กับสโมสรได้ตลอดไป หากไม่ย้ายทีมเพื่อค้นหาความท้าทายใหม่ยังไงก็ต้องแขวนสตั๊ดและเลือกเดินบนเส้นทางของตนเองต่อไป ซึ่งทางด้านของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ดาวยิงคนเก่งชาวโปแลนด์ ก็เป็นอีก 1 คน ในการเลือกชีวิตค้าแข้งของตนเอตามแบบแรกนั่นคือ การย้ายไปหาความท้าทายเพื่อพิสูจน์ให้แฟนบอลทั่วโลกเห็นว่าเขานี่แหละของจริง
นับตั้งแต่ดาวยิงเลือดโปลรายนี้ย้ายจากทัพ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มายังถิ่นอลิอันซ์ อารีน่า ในซีซั่น 2014/15 เขาคือกำลังหลักคนสำคัญในการพาทีมเถลิงคว้าแชมป์มาแล้วนับไม่ถ้วน เอาแค่ถาดบุนเดสลีกาก็จัดให้ทั้งสิ้น 8 สมัย เรียกว่าทำได้มันทุกซีซั่นที่ลงเล่นกับ “เสือใต้” เลยทีเดียว อีกทั้งในซีซั่น 2019/20 ยังพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล อีก 3 สมัย ยังไม่นับรวมรางวัลส่วนตัวและถ้วยเล็ก ๆ น้อย ๆ
นี่คือหนึ่งใน นักฟุตบอล ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการฟุตบอลเยอรมันคงไม่ใช่เรื่องผิดนัก และเมื่อมันถึงจุดอันเหมาะสม แม้ว่าสถิติในการถล่มประตูของเจ้าตัวยังคงดุดันและอันตรายแค่ไหน แต่ด้วยความท้าทายที่มันหมดไฟจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาต้องการแสวงหาสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม
ส่งผลให้ซีซั่น 2022/23 นี้ ดาวยิงวัย 34 ปี ตัดสินใจอำลาถิ่นอลิอันซ์ อารีน่า แล้วย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวสูงถึง 45 ล้านยูโร บวกด้วย Add-on อีก 5 ล้านยูโร แถมมีการเซ็นสัญญายาวไปจนถึงปี 2026 มีการตั้งค่าฉีกสัญญาสูงถึง 500 ล้านยูโร กันเลยทีเดียว นี่คือสิ่งที่บอกว่าบาร์ซ่าเอาจริงในการล่าลายเซ็นหัวหอกคนนี้เพื่อเข้ามายังถิ่นคัมป์ นู
ซึ่งอย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าบางทีก็เหมือนโชคชะตาฟ้าเล่นตลกให้แฟนบอลได้เสพความบันเทิง เมื่อการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2022/23 ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า กับบาเยิร์น มิวนิค ดันโคจรมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน นั่นคือ กลุ่ม C ร่วมกับอินเตอร์ มิลาน และ วิคตอเรีย เพิลเซ่น
งานนี้แฟนบอลยังไม่ทันจะลืมเลือนก็มีโอกาสเห็นอดีตดาวยิงขวัญของเขากลับมายังสนามที่คุ้นเคยอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามแทน เชื่อเลยว่าเกมที่ทัพ “เสือใต้” ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของทัพอาซูลกรานา ต้องถูกจับจ้องเป็นพิเศษแน่ และถ้าหาก “เลวาน” ยิงประตูได้ เขาก็คงให้เกียรติด้วยการไม่แสดงความยินดีใด ๆ ทั้งสิ้น งานนี้แค่คิดก็สนุกแล้ว
