Latest Post

พรีเมียร์ ลีก แข่งก็นัด ควรให้เครดิตกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างมาก โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อาร์เตต้าเชื่อว่าการคว้าแชมป์ในวันนี้

ความสนุกของการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2022-23 ได้เริ่มต้นโหมโรงกันไปเรียบร้อย และเชื่อว่าอัตราความสนุกจะต้องทวีคูณแบบร้อนระอุเดือดปุด ๆ เป็นแน่แท้ เพราะเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างเสริมทัพกันแบบอุตลุด อย่างไรก็ตามก็มีเหล่าบรรดากูรูฟุตบอลในต่างประเทศจำนวนมากยังคงมองว่า 2 ทีมแย่งแชมป์ในปีนี้ยังต้องเลือกเป็น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คำถามคือทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นี่คือ 3 เหตุผลที่อยากมาบอกต่อ

1. ความแข็งแกร่ง ทีมเวิร์ค การเข้าใจในระบบยังคงเป็นจุดแข็ง

ตลอด 2-3 ซีซั่นที่ผ่านมาจะพบว่าพวกเขาคือ 2 ทีม ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ที่มีความเข้าใจในด้านระบบตามที่ผู้จัดการทีมสั่งให้เล่นมากที่สุด มองเห็นภาพง่าย ๆ ฝั่งของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเน้นการออกบอลรวดเร็ว การต่อบอลไม่ต้องมากจังหวะแต่สามารถพาไปถึงหน้าประตูฝ่ายตรงข้ามและพร้อมเป็นสกอร์ทันที

เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ เน้นบอลเพรสซิ่ง ใช้พละกำลัง นักเตะวิ่งไม่มีหมด พร้อมด้วยความคมของแนวรุกสุดเด็ดขาด ตรงนี้เองที่ทีมอื่น ๆ ยังแทบไม่สามารถสอดแทรกโอกาสใด ๆ ที่จะขึ้นมาแย่งแชมป์ได้เลย

2.ขนาดของทีมพร้อมสำหรับการลงเตะในทุกถ้วย

หากมองเรื่องขนาดของทีมรวมถึงนักเตะในคอนโทรลตรงนี้ฝั่งของลิเวอร์พูลอาจดูเป็นรองเล็กน้อย แต่อย่าลืมว่า คล็อปป์ มีความเก่งกาจในการปั้นนักเตะดาวรุ่งให้ขึ้นมาโชว์ฝีเท้าอยู่แล้ว ขณะที่ด้านของ เป๊ป เองก็พร้อมให้โอกาสนักเตะทุกคนเช่นกันถ้าหากทำผลงานได้ดี ดังนั้นขนาดของทีมทั้งคู่จึงแทบไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักหากมองในมุมของการพร้อมส่งลงสนามในทุกรายการ เรียกว่างานนี้ใครที่อยากบดบี้กับพวกเขาคงต้องเหนื่อยกับการกรำศึกหนักกันหน่อยแล้ว

หงส์แดง ลิเวอร์พูล

3.ประสบการณ์ลุ้นแชมป์สูงปรี๊ดทั้งคู่

ตามที่บอกไปว่าตลอด 2-3 ซีซั่นที่ผ่านมา นี่คือ 2 ทีมที่ลุ้นแชมป์กันอยู่คู่เดียวและดูทีท่าก็ยังไม่น่ามีใครมาแทรกได้ ดังนั้นประสบการณ์ แนวทางในการวางแผนทำทีม การจัดการนักเตะ หรือแม้แต่การให้สัมภาษณ์ต่าง ๆ จึงไม่ต้องห่วงยอด 2 กุนซือระดับโลกเลย พวกเขารู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้สิ่งรอบตัวไม่กระทบกับนักเตะและผลการแข่งขันในสนามมากที่สุด นี่คืออีกเหตุผลที่ยืนยันว่าจะมีม้าแค่ 2 ตัวเหมือนเดิม

แม้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, เชลซี หรืออาร์เซน่อล อาจเป็นตัวสอดแทรกได้แต่คงต้องดูในระยะยาวว่าพวกเขาจะมีดีมากพอแค่ไหนในการสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของเกาะอังกฤษในซีซั่นนี้