ใครจะไปเชื่อว่า ลิเวอร์พูล เต็ง 2 ในการลุ้นแชมป์ก่อนช่วงฤดูกาลจริงเตรียมเปิดศึก ทว่าหลังผ่านไป 3 เกมแรกพวกเขากลับยังไม่สามารถควานหาชัยชนะของตนเองเจอได้ เล่นเอาเหล่าสาวก “หงส์แดง” ถึงกับกลัดกลุ้มถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายใหญ่ของทีมต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน แล้วปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญมีอะไรบ้าง มาลิสต์ให้เห็นภาพกันเลย
ความกระหายของผู้เล่นตกลงอย่างเห็นได้ชัด
นับตั้งแต่การเล่นช่วงปรีซีซั่นมาจนถึงเกมพรีเมียร์ลีกแรก ๆ สิ่งที่สังเกตถึงความต่างได้ชัดเจนมากสุดกับช่วง 1-2 ซีซั่น่ก่อนคือความกระหายในการไล่ล่าคว้าแชมป์ของนักเตะ อาจด้วยนี่คือทีมชุดแห่งความสำเร็จคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 30 ปี มาครองให้กับสโมสรได้สำเร็จ บวกกับซีซั่นก่อนได้รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ พรีเมียร์ลีก พร้อมทั้งคว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยในประเทศอย่าง ลีก คัพ และเอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ นั่นอาจบ่งบอกถึงความกระหายและเป้าหมายของนักเตะดรอปลงชัดเจนมาก นำมาซึ่งความกระตือรือร้นที่เคยมีไม่เข้มข้นเหมือนเดิม
ปัญหานักเตะบาดเจ็บยังคงวนเวียนไม่ขาด
ปัญหาสุดคลาสสิกซึ่งจริง ๆ จะบอกว่าไม่ใช่แค่ลิเวอร์พูล แต่ทีมอื่นก็พบเจอเป็นเรื่องปกติ ทว่าสิ่งสำคัญคือนับตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นจนถึงเปิดสนามพวกเขายังไม่เคยเจอทีมที่สมบูรณ์เลย นักเตะผลัดกันบาดเจ็บเป็นว่าเล่น อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน ปิดเทอมยาว, โจเอล มาติป ยังไม่พร้อมลงสนาม, ดีเอโก้ โชต้า ก็บาดเจ็บ แค่คิดก็ปวดหัวกับสถานการณ์ที่นายใหญ่ชาวเยอรมันต้องพบเจอแล้วจริง ๆ
การขาดหายไปของ ซาดิโอ มาเน่
นี่อาจเป็นอีกสาเหตุใหญ่ ๆ และเป็นรอยแผลที่ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบมากพอควร จากเดิม มาเน่ อยู่ซ้าย ซาล่าห์ อยู่ขวา สปีดเกมรุกและเซนส์บอลพอกัน ทว่าเมื่อเปลี่ยนเป็น หลุยส์ ดิอาซ ความเคี่ยว ประสบการณ์ต้องยอมรับว่าสู้ดาวเตะชาวเซเนกัลยังไม่ได้ ดังนั้นแนวรุกทางฝั่งซ้ายอาจได้แค่ความหวือหวาแต่ลูกคม ลูกเทคนิคยังต้องพัฒนาอีกพอสมควรด้วยเช่นกัน
ความโรยราของนักเตะหลายคน
ปิดท้ายกันด้วยอายุของนักเตะหลายคนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งความฟิตหรือรูปแบบการเล่นย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ยิ่งถ้าเป็นแผงมิดฟิลด์อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ ส่วนตัวสำรองบางคนก็ยังทดแทนกันไม่ได้ นี่จึงเป็นอีกปัจจัยที่เกมตรงกลางของพวกเขาช้าลงอย่างเห็ฯได้ชัด อีกทั้งความนิ่ง ลูกไล่ก็ลดตามอายุอีกด้วย คงต้องรีบแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด
